วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556


 

ริมฝีปากสวยด้วยสีลิปสติก


           ริมฝีปากอวัยวะที่เย้ายวนที่สุดบนใบหน้า เพราะเป็นส่วนที่บ่งบอกได้ดีถึงอารมณ์ ความรู้สึก และนิสัยของผู้หญิงที่เป็นเจ้าของ หากเปรียบดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ริมฝีปากก็คือหน้าต่างของอารมณ์นั่นเอง


           ยามอารมณ์แจ่มใส รอบกายมีแต่สิ่งสวยงาม เรียวปากย่อมแย้มยิ้ม แสดงความรู้สึกสุขใจ แต่เมื่อใดเกิดความไม่พอใจหรือไม่สบอารมณ์ เรียวปากน้อย ๆ ก็อาจเหยียดตรง หลุบลง หรือเม้มไว้ บ่งบอกความรู้สึกขัดใจ แม้แต่ศาสตร์โหงวเฮ้งของจีนเองก็ยังยกให้ปากเป็นอวัยวะสำคัญที่บ่งบอกลักษณะนิสัยใจคอ บุคลิก และวิถีชีวิตของผู้เป็นเจ้าของ เรียวปากจึงมีความสำคัญมิใช่น้อย และเป็นอวัยวะสำคัญที่เจ้าของไม่ควรละเลย และด้วยเหตุผลที่ริมฝีปากสามารถสะท้อนความนัยไปถึงอวัยวะอันลึกเร้นของเพศหญิง จุดประสงค์ใหญ่ของการทาปาก จึงเป็นไปเพื่อดึงดูดใจเพศตรงข้ามให้หลงใหลในความชุ่มฉ่ำเย้ายวน
 

          เรียวปากสวยดังใจ
           หญิงสาวทุกคนต่างใฝ่ฝันอยากมีริมฝีปากสวยงามได้รูป หากใครเกิดมาพร้อมริมฝีปากที่ลงตัวสมสัดส่วนก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่หากสาวใดไม่โชคดีขนาดนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะการแต่งแต้มและเพิ่มสีสันให้เรียวปากจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพียงแค่มีเรียวปากที่สดใส ทุกส่วนของใบหน้าก็จะดูแจ่มใสเจิดจ้าขึ้นได้อย่างน่าแปลกใจ ลิปสติกจึงเป็นเครื่องสำอางที่สำคัญที่สุดมาตลอดทุกยุค ขนาดสาว ๆ เมื่อ 5,000 ปีก่อน เขาก็ยังใช้สีสันจากธรรมชาติมาทาปากกันแล้ว

            ขั้นตอนที่ 1 บำรุงเรียวปาก
           ปากที่ทาลิปสติกได้สวยจะต้องเนียนเรียบไม่แห้งแตกเป็นขุย ดังนั้นก่อนทาลิปสติกจึงควรรองพื้นปากด้วยครีมบำรุงริมฝีปากหรือลิปบาล์มเพื่อช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ควรทาลิปบาล์มทันทีหลังจากการทาครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อให้ลิปบาล์มมีเวลาซึมซาบเข้าไปบำรุงผิวปากได้ในขณะที่แต่งใบหน้าส่วนอื่น และเมื่อแต่งหน้าส่วนอื่นเสร็จแล้วจึงใช้กระดาศทิชชูซับลิปบาล์มที่เหลือออกอย่างเบามือ ริมฝีปากจะชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้นในทันทีโดยไม่ทิ้งความมันไว้และสีลิปสติกที่ทาทับลงไปจะติดได้ทนนาน
          เคล็บลับ หากต้องการให้สีสันของลิปสติกติดทนนานกว่าเดิม ควรทารองพื้นให้ทั่วริมฝีปากก่อนทาลิปสติก
 

            ขั้นตอนที่ 2 เขียนขอบปาก
           เพื่อเน้นริมฝีปากให้เด่นชัดขึ้น ป้องกันไม่ให้สีลิปสติกซึมเลอะขอบปาก และในบางสถานการณ์ยังสามารถช่วยแก้ไขรูปทรงของปากได้ด้วย โดยเริ่มจากการเลือกดินสอเขียนขอบปากที่มีสีใกล้เคียงกับสีผิวปากตามธรรมชาติ หรือคล้ายกับสีลิปสติกที่จะทาให้มากที่สุด บรรจงใช้ดินสอเขียนไปตามรูปขอบปากตามธรรมชาติ ถ้ามือไม่นิ่งพอ ให้วางข้อศอกลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วค่อย ๆ เขียนจะช่วยได้มากเลยค่ะ หลีกเลี่ยงการเขียนขอบปากให้เลยออกมานอกริมฝีปากมากเกินไป เพราะเมื่อสีลิปสติกจางลง เส้นขอบปากจะเด่นจนน่าเกลียด

           ส่วนถ้าใครอยากวาดขอบปากเพื่อแก้ไขรูปปาก แนะนำว่า ถ้าอยากให้เรียวปากดูบางลง ให้เขียนขอบปากเลยเข้าไปในริมฝีปากเล็กน้อย แต่ถ้าอยากให้ปากดูเต็มอิ่มขึ้นก็วาดขอบปากให้เลยริมฝีปากจริงออกมา โดยเคล็ดลับที่ทำให้เส้นขอบปากไม่โดดจนเกินไปก็คือ ให้ใช้พู่กันทาปากแห้ง ๆ ไล้ไปตามเส้นขอบปากที่เขียนไว้ จะทำให้ขอบปากดูนุ่มขึ้นได้ในทันที และหากอยากให้สีลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้นก็สามารถใช้ดินสอเขียนขอบปากระบายให้ทั่วแทนลิปสติกได้ โดยตั้งดินสอให้ด้านข้างของเนื้อสีชิดกับริมฝีปากเพื่อให้ทาได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ตบท้ายด้วยการใช้พู่กันจุ่มลิปบาล์มทาเคลือบริมฝีปากบาง ๆ เพื่อป้องกันปากแห้งแตก ส่วนดินสอแท่งใหญ่ที่ใช้ทาปากโดยเฉพาะ หรือที่เรียกว่า ชับบี้สติ๊ก (Chubby Stick) นั้น ไม่ควรนำมาใช้เขียนขอบปากเพราะมีส่วนผสมที่เป็นเนื้อครีมมากเกินไป ซึ่งจะทำให้ขอบปากเลอะเทอะได้ง่าย
          เคล็ดลับ อากาศร้อน ๆ อย่างนี้จะทำให้เนื้อดินสอเขียนขอบปากนิ่มและหักง่าย ก่อนใช้ให้นำไปแช่ตู้เย็น หรือนำมาจุ่มน้ำเย็นสักครู่ จะช่วยให้เนื้อดินสอแข็งขึ้น
 

            ขั้นตอนที่ 3 เลือกเนื้อและสีลิปสติกให้เหมาะกับตัวเอง
           หากอยากหาซื้อลิปสติกที่ถูกใจสักแท่ง สาว ๆ คงต้องคิดกันหลายตลบ เพราะลิปสติกมีมากมายหลายสีหลากเฉด แถมยังไม่รู้ว่าลิปสติกสีไหนชนิดใดกันแน่ที่เหมาะกับตัวเอง คำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้การเลือกลิปสติกเป็นเรื่องง่ายและสนุกขึ้นค่ะ
 



          วิธีเลือกชนิดของลิปสติก
          ลิปสติกเนื้อด้าน (Matte Lipstick)
          เหมาะกับการเน้นสีสันของริมฝีปาก เป็นชนิดที่ติดทนนานที่สุดเพราะมีส่วนผสมของแป้งในเปอร์เซ็นต์สูง แต่เมื่อทาแล้วปากจะแห้งมาก แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนส่วนผสมของเนื้อลิปสติกจากแป้งมาเป็นโพลีเมอร์และซิลิโคน เพื่อช่วยให้ปากชุ่มชื้นขึ้น หรือลองผสมลิปสติกเนื้อด้านเข้ากับลิปบาล์ม อาจทำให้ติดทนนานน้อยลงไปบ้างแต่ริมฝีปากจะชุ่มชื้นมากขึ้น

          ลิปสติกเนื้อประกาย (Shimmer Lipstick)
           เนื้อคล้ายลิปสติกแบบครีม แต่มีส่วนผสมของไมก้าและไททาเนียมไดออกไซด์ ที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงและเพิ่มประกาย ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นและมีสีสันติดทนพอสมควร เป็นลิปสติกที่เหมาะกับฤดูร้อน

          ลิปสติกเนื้อครีม (Cream Lipstick)
           สีแบบทึบแสงของลิปสติกชนิดนี้จะช่วยให้ริมฝีปากดูเต็ม อวบอิ่มและอ่อนเยาว์ เนื้อลิปสติกที่เนียนเรียบยังช่วยให้การทาปากสีเข้มดูอ่อนโยนและเย้ายวนขึ้น วิธีที่ดีที่สุดในการทาลิปสติกชนิดนี้คือ ทาชั้นแรกแล้วควรใช้กระดาษทิชชูซับริมฝีปากก่อน จากนั้นใช้พู่กันระบายทับลงไป วิธีนี้จะช่วยให้สีสันติดทนนานขึ้นกว่าเดิม

          ลิปสติกเนื้อบางใส (Sheer Lipstick)
           เนื้อบางเบาของลิปสติกชนิดนี้จะเผยให้เห็นสีของริมฝีปากจริง ทำให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นสูงแต่ไม่ติดทนนาน

          ลิปกลอส (Gloss)
           จะช่วยให้ริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์ ทั้งยังทำให้ปากเรียบเนียนได้ดีกว่าลิปสติกทั่วไป จะใช้ทาเดี่ยว ๆ เพื่อเน้นสีธรรมชาติของริมฝีปากเพียงอย่างเดียว หรือทาทับลงไปบนลิปสติกเพื่อเพิ่มความเงางามหรือเป็นไฮไลท์ก็ได้
 


          วิธีเลือกลิปสติก
           สีสันของลิปสติกมีหลายเฉด หลากโทน รวม ๆ แล้วก็มากมายหลายร้อยสี สิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจเลือกสีใดก็ตาม คือ อย่าให้แรงดึงดูดแห่งสีสันของลิปสติกเหล่านั้นมีพลังอำนาจมากกว่าตัวตนจริง ๆ ของเรา ควรจะเลือกสีลิปสติกที่บ่งบอกความเป็นตัวตนจริง ๆ ของเรามากกว่า

          เลือกสีตามฤดูกาล
           ในฤดูร้อนที่ทุก ๆ อย่างรอบตัวสะท้อนแสงแดดเป็นประกายเช่นนี้ ควรเลือกสีลิปสติกที่เป็นประกาย สดใส แวววาว เพื่อให้ดูสดชื่น มีชีวิตชีวา ยามต้องแสงแดดจ้า ส่วนเมื่อท้องฟ้าไม่ค่อยแจ่มใสนักตอนย่างเข้าฤดูฝน สีลิปสติกที่เหมาะกับสีเทาอึมครึมของท้องฟ้าคือสีชมพูอมม่วง สีน้ำตาลอมม่วง สีม่วงอ่อน หรือสีชมพูนู้ด ก็เหมาะเช่นกัน พอถึงฤดูหนาว สีสันทุกอย่างจะดูเคร่งขรึม โดยเฉพาะบนเวทีแฟชั่นที่สีสันจะเข้มข้นขึ้น หนักขึ้น เด่นชัดขึ้น สีลิปสติกจึงควรจะเข้มอย่างสีไวน์ แดงเบอร์กันดี ม่วงพลัม น้ำตาลช็อกโกแลต ให้เข้ากับสีผ้าทึม ๆ และเนื้อผ้าที่หนา หนัก


             ขั้นตอนที่ 4 แต้มสีให้เรียวปาก
           ผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมทาลิปสติกโดยตรงจากแท่งหรือใช้วิธีป้ายด้วยปลายนิ้ว แต่การทาลิปสติกที่ถูกต้องที่สุดคือการใช้พู่กันทาปากซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากสำหรับช่างแต่งหน้า เพราะนอกจากจะระบายสีได้สวยเสมอกันทั่วทั้งปากแล้ว ยังทำให้สีติดทนนานขึ้นด้วย เพราะพู่กันจะเกลี่ยสีได้อย่างพอเหมาะพอดี และยังเป็นผลพลอยได้ให้ประหยัดลิปสติกได้ด้วย นอกจากนี้ยังทำให้สีลิปสติกกับเส้นขอบปากที่วาดไว้ กลมกลืนกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ

          เคล็ดลับ ควรมีพู่กันทาปากแบบเก็บใส่ปลอกติดตัวไว้ เพื่อจะได้มีพู่กันสะอาด ๆ ไว้แต้มเติมเรียวปากได้ทุกเวลา ควรเลือกชนิดที่มีขนแปรงยาวประมาณ 8 มิลลิเมตร (1/3 นิ้ว) ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่สั้นไม่ยาว เพื่อควบคุมการทาปากให้เที่ยงตรงที่สุด
















ที่มา....................Newunewlook       

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Read more: http://tomatoessource.blogspot.com/2013/05/numbered-page-navigation.html#ixzz2bMvm5uKk IT Blog Program Tools Tricks