กินดื่มแต่ละครั้งก็เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนได้โดยไม่รู้ตัว
โรคกระดูกพรุนภัยเงียบใกล้ตัว
หลายโรคที่ทำให้เราเจ็บป่วยเราสามารถรู้สุขภาพได้ล่วงหน้า จากอาการและสัญญาณต่างๆ จึงทำให้รีบรักษาและหายขาดได้ แต่สำหรับ “กระดูกพรุน” คือภัยเงียบอย่างแท้จริงที่รุกคืบคุณมานานปีโดยที่คุณมิอาจรู้ตัวมาก่อน จนวันหนึ่งเกิดกระดูกหักเพียงเพราะสาเหตุเล็กน้อย! คนเราจะมีการสะสมมวลกระดูกโดยมีแคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักตลอดการเจริญเติบโตตั้งแต่แรกเกิดจนก้าวเข้าสู่วัยรุ่นและจะมีมวลกระดูกหนาแน่นสูงสุดเมื่ออายุ 20-30 ปีหลังจากนั้นมวลกระดูกจะค่อยๆ เริ่มลดลง อัตราการสลายของกระดูกจะเร็วกว่าอัตราการสร้างใหม่ ในผู้หญิงมวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเพราะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างกะทันหัน ตามธรรมชาติการสลายและการสร้างกระดูกจะมีฮอร์โมนหลายชนิดเป็นตัวควบคุม รวมทั้งฮอร์โมนนี้ด้วย อีกทั้งผู้หญิงยังมีมวลกระดูกน้อยกว่าผู้ช่ายถึง 30% ผู้หญิงจึงมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนมากว่าผู้ชาย 2-3 เท่า ส่วนในผู้ชายมวลกระดูกจะลดลงช้าๆตามวัยที่สูงขึ้นเช่นกัน แต่ไม่เร็วฮวบฮาบเหมือนในผู้หญิงเพราะผู้ชายไม่ได้ขาดฮอร์โมนเพศอย่างกระทันหัน ดังนั้นจึงเป็นเหตุที่พบโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงมากกว่าผู้ช่ายนั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้ทั้งผู้หญิงและชายเป็นโรคกระดูกพรุน
ความเสื่อมตามวัย กรรมพันธุ์ ฮอร์โมนเพศที่ลดลง เชื้อชาติซึ่งคนเอเชียมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าชาวตะวันตกและอัฟริกา คนรูปร่างเล็กบาง จะมีโอกาสมากกว่าคนกระดูกใหญ่ตัวโต
การกินดื่มที่ไม่เหมาะสมที่ทำให้สูญเสียแคลเซียมหรือการดูดซึมต่ำลง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม การสูบบุหรี่ หรือกินยาบางชนิดที่มีผลต่อกระดูกเป็นประจำ เช่น สเตียรอยด์
การขาดการออกกำลังกาย
ทั้งนี้หลายคนเข้าใจว่าอาการปวดเมื่อยตามตัวเป็นอาการของโรคกระดูกพรุน แต่แท้ที่จริงแล้วผู้ที่มีกระดูกพรุนจะไม่มีอาการใดๆ เลย ถ้ากระดูกไม่หัก เพราะการสะสมมวลกระดูกที่ลดลงจะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปนานนับสิบๆ ปี กระดูกจึงเริ่มอ่อนแอและบางลงเรื่อยๆ จนพรุน เปราะและมีโอกาสเสี่ยงต่อการหักสูงมาก เพราะไม่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักหรือรับแรงกระแทกในชีวิตประจำวัน โดยกระดูกที่หักส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณกระดูกข้อมือ กระดูกสะโพก และกระดูกสันหลังระดับเอว นอกจากนี้จะเห็นว่าคนสูงอายุบางคนหลังโกงค่อมลงเพราะมีการยุบตัวของกระดูกสันหลังด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากเกิดกระดูกหักในคนสูงอายุจะยากต่อการรักษา และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยเฉพาะ กระดูกสะโพกหัก พบว่า 1 ใน 4 จะเสียชีวิตภายในปีแรก และอีก 25% จะทุพพลภาพ ไม่สามารถกลับมาเดินเหินได้เหมือนเดิม ปัจจุบันยังไม่มีหนทางในการรักษากระดูกพรุน มีเพียงแค่หยุดยั้งการสูญเสียมวลกระดูกไม่ให้เพิ่มขึ้น เช่น กินอาหารที่มีแคลเซียมสูง การใช้ฮอร์โมนทดแทน การออกกำลังกายที่เกิดแรงกระแทกและสร้างกล้ามเนื้อ เช่น การวิ่ง การเดิน การเต้นแอโรบิก เป็นต้น ส่วนคนที่อยู่ในวัยรุ่นก็สามารถสร้างพื้นฐานกระดูกแข็งแรงไว้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อให้มีมวลกระดูกที่แข็งแกร่งที่สุด สามารถรับมือกับโรคกระดูกพรุนได้เมื่อก้าวเข้าสู่วัยที่สูงขึ้น
โดยในแต่ละวันเราควรได้รับปริมาณแคลเซียมที่จำเป็นดังนี้
อายุ 11-22 ปี 1,200 มก.
25 ปี-หมดประจำเดือน 1,000 มก.
ช่วงเริ่มหมดประจำเดือน 1,200 มก.
หลังจากหมดประจำเดือน 1,500 มก.
เราจึงควรหันมาใส่ใจกับการเลือกอาหารที่มีแคลเซียมสูงตั้งแต่วันนี้ อีกทั้งออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อข้อต่อ การทรงตัวและคงปริมาณมวลกระดูก เช่น การเดิน วิ่ง เต้นแอโรบิก ปั่นจักรยาน เป็นต้น เพื่อสะสมแคลเซียมไว้ใช้อย่างเพียงพอในวันหน้าอย่ารอจนกว่าจะสายเกินแก้ไข เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนให้ห่างไกล
ที่มา....................Nutrilite
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น